📔End of "This" Journey

🔥4COLORS : Egotistic


   สวัสดีค่าา กลับมาพบกันอีกครั้งในมุมเล็กๆของสวนไชเท้าแห่งนี้  วันนี้ได้ฤกษ์ขายของแบบเต็มกำลังแล้ว(หลังจากที่ผ่านไปครึ่งเทอมแล้วยังแปลได้แค่เพลงเดียว...) ซึ่งเพลงที่จะนำมาขายในช่วงที่อากาศร้อนตับไหม้แบบนี้จะเป็นเพลงไหนไม่ได้นอกจาก Egotistic เพลงที่สองจากอัลบัม 4colors ตัวแทนของฤดูร้อนค่าาา

Red Moon

   Egotistic เป็นเพลงไตเติลของอัลบัม Red Moon ซึ่งเป็นอัลบัมที่สองของโปรเจกต์ 4seasons 4colors ค่ะ โดยอัลบัม Red Moon นี้จะสื่อถึงฤดูร้อนและสีแดงอันแสนร้อนแรงของพี่บยอลค่ะ!! เช่นเดียวกับ Yellow Flower ที่มีเพลงเดี่ยวของน้องฮวาซา ใน Red Moon ก็มีเพลงเดี่ยวของพี่บยอลเหมือนกัน ชื่อว่า Selfish ค่ะ (ในเพลงนี้มีน้องกิ หรือซึลกิ จาก Red Velvet มาฟีทด้วยนะ เริ่ดมากกก!)

แนะนำคร่าวๆเรียบร้อย ถึงเวลาฟังเพลง!
v
v
(ปากไม่ตรงกับเนื้อร้องก็ไม่ต้องสงสัย แฟนเมดอะเกนจ้าา)

― ― ― ― ― ― ― ― ― ―

EGOTISTIC

私は 周る衛星
でもあなたが太陽なワケない
思うまま 中心だね
好き勝手に やっちゃダメ!
ฉันเป็นดาวบริวารที่โคจรรอบคุณ
แต่นั่นไม่ได้แปลว่าคุณเป็นดวงอาทิตย์
คุณกลายเป็นจุดศูนย์กลางอย่างที่ต้องการแล้วนะ
แต่ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะทำอะไรตามใจตัวเองได้

教えて震えるだけで
その瞳 ふさぐ魔法
腕の中 抜け出すわ
泣かせたら ホントにダメ!
บอกฉันทีสิ ว่าความหวั่นไหวที่บดบังดวงตาของฉัน
มันคือเวทมนต์อะไรกันแน่
ฉันไม่ต้องการอ้อมกอดของคุณอีกต่อไปแล้วล่ะ
ถ้ามันจะทำให้ฉันต้องร้องไห้แบบนี้

自分のことだけしか
考えないでしょ
バカみたいに 合わせた
私を 悩ます
最後まで 寂しくする
คุณมันก็คิดถึงแต่เรื่องของตัวเองเท่านั้นแหละ
ฉันมันบ้าเองที่พยายามปรับตัวเข้าหาคุณ
สุดท้ายก็ได้แต่เจ็บปวด
ถูกทิ้งให้อยู่อย่างอ้างว้างจนท้ายที่สุด

言うことない Go away
説明が要る? No way
怒ったって 傷口に塩
もう 勝手にしな
ไม่มีอะไรต้องพูดอีกแล้ว ไปให้พ้น
คิดว่าฉันยังต้องการคำอธิบายอะไรอีกงั้นเหรอ? ไม่ล่ะ
ต่อให้โกรธคุณไป ก็มีแต่ต้องเจ็บกว่าเดิม
เพราะฉะนั้น อยากทำอะไรก็เชิญ

私は あなただけ
あなたは 自分だけ
(思うまま中心だね)
ホント 自分だけ
それなら 勝手にしなよ
(好き勝手を やっちゃダメ)
勝手にしな AY
ฉันน่ะคิดถึงแต่คุณแท้ๆ
แต่คุณกลับคิดถึงแต่ตัวเอง
(กลายเป็นจุดศูนย์กลางอย่างที่ต้องการแล้วนี่)
คุณน่ะมันคิดถึงแต่ตัวเอง
ถ้าอย่างนั้น ก็ทำตามใจตัวเองต่อไปเถอะ
(จะมาทำอะไรตามใจไม่ได้หรอกนะ)
อยากทำอะไรก็เชิญ

眠れなかった
クールになっても
その態度が 理解不能
いや降参 くたびれた
私の道をゆくわ
あなたがいなくても 平気よ
腕の中 抜け出すわ
前向きに 生きてくの
ฉันนอนไม่หลับ ถึงแม้ว่าจะใจเย็นลงบ้างแล้วก็ตาม
ท่าทีแบบนั้นน่ะ มันหมายความว่ายังไงกัน
ฉันเหนื่อยแล้วล่ะ พอแล้ว
จากนี้ ฉันจะไปตามทางของฉัน
ต่อให้ไม่มีคุณ ฉันก็ไม่เป็นไรหรอกนะ
พอกันทีกับอ้อมกอดของคุณ
ฉันจะใช้ชีวิตของตัวเองบ้างล่ะ

合わせた 私
毎度 That's OK man
毎日 繰り返し
この好意 あなたの権利あるなら
なんか間違ってる!
ฉันที่ยอมให้คุณทุกอย่าง
เป็นอย่างนี้ทุกวัน ซ้ำไปซ้ำมา
ถ้าจะมาอ้างสิทธ์บนความใจดีของฉันแบบนี้
ก็มีอะไรไม่ถูกต้องแล้วล่ะ

何で驚く?
当たり前でしょ!
泣いたって 無駄よ 今更
もう 勝手にしな
ยังจะตกใจอะไรอีก?
ก็เห็นๆกันอยู่ไม่ใช่หรือไง!
จะมาร้องห่มร้องไห้เอาตอนนี้ก็เปล่าประโยชน์
ฉันไม่สนใจหรอก อยากทำอะไรก็เชิญ

こっちは あなただけ
そっちは 自分だけ
思うまま 中心だね
ホント 自分だけ
それなら 勝手にしなよ
猛反省する時を
待ってるわね 勝手にね
ทางนี้ก็คิดถึงแต่คุณ
แต่ทางคุณกลับคิดถึงแต่ตัวเอง
(กลายเป็นจุดศูนย์กลางอย่างที่ต้องการแล้วนี่)
คุณนี่มันคิดถึงแต่ตัวเองจริงๆ
ถ้าอย่างนั้น ก็ทำตามใจตัวเองต่อไปเถอะ
ฉันจะรอวันที่คุณเจอกับตัวบ้างก็แล้วกัน
คนที่คิดถึงแต่ตัวเองแบบนี้น่ะ

I don't, baby I don't stay
I don't, baby I don't stay
I'm ready to go on my way
言うことない Go away
説明が要る? No way
怒ったって 傷口に塩
私も 勝手にする
Bicho Malo
ไม่ละ ฉันจะไม่ทนอยู่แบบนี้แล้ว
ฉันจะไปตามทางของตัวเองบ้างละนะ
ไม่มีอะไรต้องพูดอีกแล้ว ไปให้พ้น
คิดว่าฉันยังต้องการคำอธิบายอะไรอีกงั้นเหรอ? ไม่ล่ะ
ต่อให้ฉันโกรธคุณไป ก็รังแต่จะทำให้มันแย่กว่าเดิม
เพราะฉะนั้นฉันเองก็จะทำตามใจเหมือนกัน
"ไอ้ผู้ชายเฮงซวย"

私は あなただけ
あなたは 自分だけ
(思うまま 中心だね)
ホント 自分だけ
それなら 勝手にしなよ
好き勝手を やっちゃダメ
ฉันน่ะคิดถึงแต่คุณแท้ๆ
แต่คุณกลับคิดถึงแต่ตัวเอง
(กลายเป็นจุดศูนย์กลางอย่างที่ต้องการแล้วนี่)
คุณน่ะมันคิดถึงแต่ตัวเอง
ถ้าอย่างนั้น ก็อยู่คนเดียวไปเลยเถอะ
จะมาทำอะไรตามใจแบบนี้น่ะไม่ได้หรอกนะ

つまんない
サ!サ!サイテイね
もういいわ
自分だけ Hey
悔やんでも
ご勝手に
勝手にね 勝手にどうぞ
私も好きに生きるわ
勝手にしな
มันไม่สนุกแล้วล่ะ
แย่ที่สุดเลย
พอกันที
กับคนที่คิดถึงแต่ตัวเองอย่างคุณ
ต่อให้ต้องเสียใจทีหลังก็ไม่เป็นไร
เชิญทำตามใจตัวเองให้เต็มที่
ฉันเองก็จะใช้ชีวิตตามใจตัวเองเหมือนกัน
เพราะฉะนั้นต่อจากนี้น่ะ อยากทำอะไรก็เชิญ

― ― ― ― ― ― ― ― ― ―

   เป็นไงคะ แซ่บไม่แซ่บถามแค่นี้ 55555555 Egotistic เนี่ยไม่ต้องพูดอะไรมากเลย แค่ดูเอมวีก็มีแต่คำว่า ซัมเมอร์กับคำว่าร้อนแรงเด้งออกมา! โอ้ยย อกอิแม่มันร้อนรุ่มไปหมด 🔥🔥🔥 อย่างไรก็ตามม ไม่ได้มีแค่เอมวีที่แซ่บเด้ออ เนื้อเพลงนางก็ใช่ย่อย!!

   ก่อนจะเข้าเนื้อเพลง ขอย้ำตรงนี้นะคะ ว่าชื่อเพลงคือ EGOTISTIC ไม่ใช่ EGOISTIC! อ่ะ งงล่ะสิ ว่าแล้วมันต่างกันเหรอสองคำนี้? ตอนแรกเราก็นึกว่าออฟฟิเชียลสะกดผิดเหมือนกัน แต่พอลองไปค้นดูแล้ว มันมีคำว่า Egotistic จริงๆ แล้วความหมายก็ไม่เหมือนกับ Egoistic ด้วย

"An egotist is a person who is interested in ‘I’ and only talks about himself
while an egoist believes that he is better and more important than anyone else."

   สรุปก็คือ Egotist คือคนที่คิดถึงแต่ตัวเอง ในขณะที่ Egoist คือคนที่คิดว่าตัวเองดีกว่า เหนือกว่าคนอื่น ดังนั้นในเพลง Egotistic ก็จะเป็นการพูดถึงคนประเภทแรก หรือก็คือผู้ชายที่ชอบทำอะไรตามใจ เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลนั่นเองค่ะ! ซึ่งในการนำเสนอใจความสำคัญตรงนี้เนี่ย มันก็มี Keyword ที่เรียกได้ว่าเป็นตัวเอกของเพลงอยู่ค่ะ

   ทุกคนน่าจะสังเกตเห็นกันแล้ว ว่าเพลงนี้ใช้คำว่า 勝手 เยอะมากกก ซึ่งคำนี้มันก็มีความหมายว่า 「自分に都合のよいように振る舞うこと」 หรือก็คือการทำอะไรตามใจตัวเองค่ะ 

   สิ่งที่น่าสนใจคือ การใช้คำว่า 勝手 ที่ปรากฏในเพลงเนี่ย หากลองดูดีๆแล้ว สามารถนำมาแบ่งเป็นไทม์ไลน์คร่าวๆของเนื้อหาได้ประมาณนี้เลยค่ะ

① 好き勝手に やっちゃダメ!
V
② もう 勝手にしな
V
 私も 勝手にする

   ① 「好き勝手に やっちゃダメ!」 ประโยคนี้แปลได้ว่า อย่ามาทำตามใจตัวเองนะ! ใช้ในการตำหนิ ตักเตือนค่ะ ซึ่งประโยคนี้ก็ออกมาตั้งแต่ท่อนแรกเลย ก็คือ

私は 周る衛星
でもあなたが太陽なワケない
思うまま 中心だね
好き勝手に やっちゃダメ! 

   "ฉันเป็นดาวบริวารที่โคจรรอบคุณ แต่นั่นไม่ได้แปลว่าคุณเป็นดวงอาทิตย์" เริ่ดมั้ยล่ะ! อธิบายง่ายๆก็คือถึงแม้ว่าฉันจะยอมตามใจ ยอมโคจรรอบคุณ จนทำให้คุณคิดว่าตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของจักรวาล แต่จริงๆแล้วคุณก็เป็นแค่ดาวเคราะห์ดวงหนึ่งที่ต้องโคจรรอบดวงอาทิตย์เหมือนกัน จึงเป็นที่มาของประโยคต่อไป คือ "คุณกลายเป็นจุดศูนย์กลางอย่างที่ต้องการแล้วนะ(เพราะว่าฉันน่ะยอมโคจรรอบคุณ) แต่ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะมาทำอะไรตามใจตัวเองแบบนี้ได้(เพราะคุณไม่ใช่ดวงอาทิตย์!)"
   ดังนั้นการที่ใช้ประโยคนี้ในเพลง ก็เป็นการสื่อว่าสภาพตอนนี้น่ะ มันเกินที่จะรับไหวแล้วนะ ถึงได้ต้องกล่าวตักเตือนกันออกมาว่า คุณจะมาทำตามใจตัวเองแบบนี้ไม่ได้นะ ฉันไม่โอเค

   ② 「もう 勝手にしな」 ถึงแม้ว่า しな คือรูปคำสั่ง(命令形)ของกริยา する แต่ในประโยคนี้ไม่ได้หมายความว่า "จงทำอะไรตามใจตัวเอง" แต่มันเป็นประโยคที่มักใช้ในตอนที่ผู้พูดเหนื่อยที่จะต้องอธิบายอะไรซ้ำๆ โดยที่ผู้ฟังไม่มีทีท่าว่าจะเข้าใจสักที เลยมีความหมายประมาณว่า "เออๆ อยากทำอะไรก็ทำไปเลย ฉันเหนื่อยจะพูดแล้ว" 
   ประโยคนี้เนี่ยเรียกได้ว่าใช้บ่อยกว่าเพื่อน เพราะแสดงถึงความเหนื่อยล้า ความสิ้นหวัง กับการพยายามทำให้คุณเปลี่ยนแปลงตัวเอง ซึ่งอาจเรียกได้ว่าความสุดจะทนตรงนี้เนี่ยแหละ ที่เป็น Turning Point อันนำไปสู่บทสรุปคือการที่ฉันจะไม่ยอมคุณอีกต่อไปแล้ว

   ③ 「私も 勝手にする」สุดท้ายก็คือใจความสำคัญที่จะสื่อนั่นเองค่ะ ในเมื่อฉันพยายามเท่าไหร่ คุณก็ยังไม่ยอมเปลี่ยนแปลงตัวเอง ยังคิดถึงแต่ตัวเอง ดังนั้นฉันก็จะทำตามใจตัวเองบ้างเหมือนกัน

สรุปเนื้อหาเพลงนี้ง่ายๆก็คือ "ถ้าจะเห็นแก่ตัวขนาดนี้ ก็อยู่คนเดียวไปเลยจ้า ฉันไม่เอาด้วยล่ะ!"


"ต่อไปก็มาดูองค์ประกอบอื่นๆบ้างดีกว่า"

   เริ่มจากตัวเพลงที่เปิดมาด้วยกีต้าร์ แฝงไปด้วยกลิ่นไอของความละติน ความสแปนิช! และด้วยจังหวะที่ค่อนข้างเร็ว ทำให้ฟังแล้วรู้สึกฮึกเหิม อยากลุกขึ้นมาเต้น แถมถ้าลองฟังดีๆ ตรงท่อนฮุคจะมีเสียงเครื่องดนตรีที่แหลมสูงอยู่ในพื้นหลัง เมื่อรวมเข้ากับสไตล์การร้องที่แสนจะ Aggressive เหมือนโกรธใครอยู่ตลอดเวลาของสาวๆ ทำให้เพลงมันดูเกรี้ยวกราดมาก แสดงถึงความรู้สึกแบบไม่ไหวแล้วโว้ยยย ไม่ทนแล้ววว!!


   ในด้าน Music Video ของเพลง Egotistic เนี่ย เรียกได้ว่าต่างจาก Starry Night แบบคนละขั้ว(จริงๆก็ตั้งแต่ตัวเพลงแล้ว..) เพราะโทนสีนางซัมเมอร์จ๋าเลยจ้ะ ไม่ต้องตีคงตีความอะไรทั้งนั้น สดใส ฉูดฉาด เร่าร้อน แค่นี้แหละที่จะสื่อ!



   แล้วความสดใส ฉูดฉาดนี่แหละ ที่ช่วยสร้างความมีชีวิตชีวา ความฮึกเหิม บวกกับเสื้อผ้าหน้าผม ที่เรียกได้ว่า Fierce สุด ทุกองค์ประกอบมันเหมือนเป็นโทรโข่งที่ช่วยขยายอารมณ์ของเนื้อเพลงให้มันชัดเจนขึ้น ว่าฉันจะไม่ยอมอยู่ใต้อาณัติของคุณอีกต่อไป I'm gonna live my life!

   นอกจากนี้ยังแอบสอดแทรกสัญลักษณ์ไว้ใน MV เบาด้วยๆ ที่เห็นชัดๆเลยก็คือ ฉากน้องฮเยจิน vs. เสือดาว และฉากเผากีต้าร์

Hwasa VS Leopard

   สำหรับฉากนี้ เสือดาวก็เป็นตัวแทนของผู้ชายในเพลง ด้วยความที่ตัวเองเสือดาว เป็นสัตว์ที่ดุร้าย ก็เลยทระนงตน คิดว่าคนอื่นจะต้องกลัว ต้องยอมสยบให้กับตัวเอง แต่ไม่ใช่กับฮวาซาจ้าา ดูหน้าน้องด้วย เสือดาวก็เสือดาวเถอะ แน่จริงก็มาดิค้าบบ

Burn Baby Burn!

   ส่วนฉากนี้ก็คือลูกสาวดิฉันเองค่ะ ที่เป็นคนจุดไฟเผากีต้าร์ กีต้าร์ก็น่าจะแทนผู้ชายในเพลง แทนความสัมพันธ์ของทั้งสองคน การเผาทิ้งก็คือการตัดสัมพันธ์นั่นแหละ โดยในจังหวะที่น้องทิ้งไฟแช็กลงพื้นเนี่ย มันมาพร้อมกับเนื้อร้องที่ว่า "Bicho Malo" ซึ่งเป็นคำในภาษาสเปนพอดี

      Bicho เป็นคำนามเพศชาย หมายถึง เเมลง,สัตว์,การต่อสู้วัวกระทิง,สิ่งมีชีวิต,บุคคล
      Malo เป็นคำคุณศัพท์เพศชาย หมายถึง เลว,เเย่,ป่วย

   สรุปคือ Bicho Malo ก็แปลได้ประมาณว่า "ไอ้ผู้ชายเฮงซวย" การที่ท่อนนี้ไปตรงกับฉากปล่อยไฟแช็กพอดี มันเป็นอารมณ์แบบในหนัง ที่ต้องมีการทิ้งท้ายก่อนที่เราจะเผาของที่เคยรักทิ้งอ่ะ ประมาณว่า "ลาก่อนนะ ไอ้คนเฮงซวย" //จุดไฟเผา


"Japanese ver. VS Korean ver."

   ถ้าพูดถึงเนื้อหาล่ะก็ เพลงนี้เก็บเนื้อหาดั้งเดิมได้เป๊ะกว่า Starry Night มากๆ เรียกได้ว่าโคลนกันมาเลยทีเดียว ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเนื้อเพลงไม่ได้มีการบรรยายภาพมากเหมือนกับ Starry Night แต่จะเป็นคำพูดเสียเยอะ เหมือนเป็นการเอาคำพูดในหัวที่อยากจะพ่นใส่หน้าผู้ชายคนนั้นมาเรียงเป็นเพลงอ่ะ ซึ่งการแปลคำพูดเนี่ย เรามองว่ามันเน้นที่ใจความที่จะสื่อ ทำให้การแปลมันสามารถยืดหยุ่นได้มากกว่า ในขณะที่การบรรยายภาพเนี่ย แค่หายไปคำนึง หรือเปลี่ยนคำ ภาพที่จินตนาการออกมาในหัวก็ต่างกันแล้ว

   แต่ถึงเนื้อเพลงมันจะปั๊วะปังเหมือนต้นฉบับก็เถอะ ถ้าถามถึงตัวเพลงว่าฟังแล้วชอบแบบไหนมากกว่า ก็คงต้องพูดกันตรงๆว่าชอบเวอร์ชันเกาหลีมากกว่ามากๆ 55555555 อ่ะๆ อย่าเพิ่งว่ากัน เราก็มีเหตุผลของเราเด้ออ

"ทำไมถึงไม่ค่อยชอบเวอร์ชันญี่ปุ่น?"

   ตอบง่ายๆเลยว่าเวอร์ชันญี่ปุ่นมันฟังแล้วไม่ค่อยลื่นหูเท่าไหร่ ซึ่งไอ้ความไม่ลื่นหูนี้ เราคิดว่าน่าจะมาจาก 2 ปัจจัยหลักๆ

   ปัจจัยแรกคือเนื้อเพลงมันมีคำที่เป็นเสียงกัก(促音)เยอะมาก ไม่ต้องคิดอะไรมาก แค่คำว่า 勝手 นี่ก็ใช้ไปกี่ครั้งแล้วไม่รู้ แถมพอมาเจอสไตล์การร้องแบบ Aggressive ที่มีการเน้นคำ กัดคำเยอะ ทำให้บางจุดที่ไม่ใช่เสียงกัก ก็ดันออกเสียงเหมือนเสียงกักไป เช่น くたびれた ⇒ くたびれた、 生きてくの ⇒ 生きてくの 

   ประเด็นที่ทำให้มันไม่ลื่นหูก็คือเสียงกักในเพลงเวอร์ชันญี่ปุ่น มัน-ไม่-ลง-บีท!! คือเสียงกักอ่ะ แค่พูดธรรมดามันก็เหมือนเป็นการเน้นอยู่แล้วใช่มั้ยละ ทีนี้พอมันไม่ลงจังหวะ มันก็เหมือนไปเน้นตรงที่ควรผ่อน เพลงมันเลยฟังดูหนักๆ เหมือนกัดฟันร้องตลอดเวลา

   อีกปัจจัยหนึ่งคือสไตล์การร้องแบบเน้นคำเยอะๆ ของเพลงนี้เนี่ยแหละ ด้วยความที่มันเป็นเพลงแปลอยู่แล้วด้วย มันเลยไม่ใช่การแต่งเนื้อร้องให้เข้ากับเมโลดี้ แต่เป็นการแปลเนื้อร้องมาเป็นภาษาญี่ปุ่นแล้วมาร้องเข้าจังหวะ พอร้องออกมาก็เลยไม่สมูธเท่าต้นฉบับ แล้วยิ่งเป็นเพลงที่มันเน้นคำเยอะๆอย่างเพลงนี้ มันเหมือนเป็นการเน้นให้ความไม่ลื่นไหลตรงนั้นมันชัดขึ้นไปด้วย ฟังแล้วเลยรู้สึกสะดุดอยู่หลายจุด โดยเฉพาะตรง 思うまま ที่เขาร้องโอโมอู๊มะมะอ่ะ... จิล้องหั้ย

"แปลไทยล่ะ.."

   ยับค่ะ พูดเลย ครั้งนี้ยากกว่าตอน Starry Night พอสมควร เพราะเล่นละคำช่วยเกือบหมด แถมเนื้อเพลงยังเหมือนบ่นอีก ใครเป็นคนพูดก็ไม่รู้ แล้วกำลังพูดถึงใครอยู่ก็ไม่รู้อีก.. และท่ามกลางความสับสนงงงวยนี้ ท่อนที่แปลอยู่นานมากกกกกกก็คือ 

教えて震えるだけで
その瞳 ふさぐ魔法
腕の中 抜け出すわ
泣かせたら ホントにダメ!

   อิหยังวะ.. ตอนแรกงงมากว่า 教えて震える แปลว่าอะไร สุดท้ายได้รับการชี้แนะจากน้องแครอทและน้องแสว ว่ามันต้องเว้นวรรคตรง 教えて รึเปล่า ก็เลยถึงบางอ้อ //กราบขอบพระคุณ
   
   แต่ปัญหามันก็ยังไม่หมดไป เพราะก็ไม่รู้อยู่ดีว่า 震えるだけでその瞳ふさぐ魔法 คืออะไร พอลองดูของเวอร์ชันเกาหลีก็เจอเนื้อที่ว่า 어떻게 한순간의 떨림이 소리 없이 너의 두 눈을 가리니 แปลว่า "แค่ความหวั่นไหวเพียงชั่วครู่ มันมาบดบังดวงตาของคุณได้ยังไงกัน".. ถึงจะงงว่าหมายถึงอะไร แต่ลองเอามาตบๆให้เข้ากันดู ก็คิดว่าน่าจะประมาณว่า "บอกให้ฉันรู้ที ว่าความหวั่นไหวที่บดบังดวงตาคู่นั้น มันคือเวทมนต์อะไรกันแน่" (อืม ก็ฟังดูไม่เลว.. มั้ง)

   แล้วดวงตาคู่นั้นคือคู่ไหนอ่ะแม่.. ในตอนที่กำลังจะคว่ำโต๊ะ ก็เหลือบไปเห็นคำว่า 泣かせたら ในท่อนถัดมาพอดี หรือว่าเวทมนต์ที่พูดถึงคือน้ำตา? เป็นความหวั่นไหว เป็นน้ำตาที่เอ่อขึ้นมา ทำให้มองไม่เห็น? เอาตามนี้ละกัน! ก็เลยกลายเป็นความหวั่นไหวที่บดบังดวงตาของฉัน ส่วนคนที่ร่ายมนต์นั้น หรือก็คือคนที่ทำให้ฉันต้องร้องไห้แบบนี้ก็คือคุณ

   สรุปง่ายๆคือที่มันยากเพราะไม่รู้ว่าประธานและกรรมของประโยคคืออะไร รวมไปถึงเนื้อหาที่แปลออกมาก็ดูไม่ค่อยเกี่ยวข้องกับบริบทข้างเคียง เหมือนอยู่ๆก็พูด ก็บ่นขึ้นมา ทำให้ตีความยากมากว่าต้องการจะสื่ออะไรค่ะ

― ― ― ― ― ― ― ― ― ―

   จบแล้วค่ะ สำหรับเพลง Egotistic สรุปก็คือยาวเหมือนเดิม อาจจะยาวกว่า Starry Night อีก... ยังไงก็หวังว่าทุกคนจะชอบกันนะคะ ถึงเราจะไม่ได้ว้าวกับเวอร์ชันญี่ปุ่นมาก แต่ Egotistic ก็เป็นเพลงที่เราชอบมากๆเพลงหนึ่งอยู่ดี ด้วยเนื้อหาที่สวยๆเฟียสๆ เขาไม่แคร์เรา เราก็อย่าไปแคร์เขา ตัวเพลงที่แมสๆปังๆ MV ที่สวย เริ่ด สรุปก็คือดีย์!! ฟังเถอะ ขายขนาดนี้แล้ว... ยังไงถ้าไม่ถูกใจเวอร์ชันญี่ปุ่นก็ลองไปฟังเวอร์ชันเกาหลีได้นะ อิอิ  

น้งฮวีนกับหน้าม้าใหม่ ฮริ้งง

Comments

  1. เขียนเยอะมากๆๆๆเลยค่ะ ที่แปลเพลงก็ภาษดีมาก ชอบค่ะ วงนี้ไม่เคยฟังเลย ถ้ามีโอกาสจะไปฟังนะคะ

    ReplyDelete
    Replies
    1. ร้อยละ70คือความเพ้อเลยค่ะคุณอุ้ม แต่เชียร์ให้ฟังจริงๆนะ เพลงดี วงดี!!

      Delete
  2. โง้ยยยเพลงนี้ So hot จังค่ะคุมไชเท้า ชอบความหมายเพลงมากๆ ทั้งๆที่ชั้นคิดถึงคุณแต่คุณกลับเอาแต่นึกถึงตัวเองนี่มันเห็นแก่ตัวไปแร้ว เทค่ะ!! Thank you, next!!
    ปล.น้องแสวก็ว่าเพลงเกาหรีเวอร์ญปมันแปลก5555 น้อยเพลงที่จะทำออกมาลื่นหูค่ะ😢

    ReplyDelete
    Replies
    1. จริงค่ะ แต่บางเพลงที่ทำออกมาดีจริงๆก็คือดีนำเกาหลีไปไกลเลยเหมือนกันนะคะ เช่น 20 ของเซบ 5555 พูดแร้วก็อยากร้องสมูล

      Delete
  3. เพิ่งรู้ความแตกต่างของ egotist กับ egoist นี่แหละ มีการนำภาษาญี่ปุ่น 勝手 มาอธิบายเพิ่มด้วย (วันนี้ขายของเต็มที่เลย)

    ReplyDelete
  4. งุ้ย ชอบการตีความเนื้อเพลงกับเอ็มวีมากๆเลยค่ะ ลึกซึ้งและละเอียดมากก เปิดมิติการฟังเพลงและดูเอ็มวีเลยแหละ เพิ่งรู้ด้วยเหมือนกันว่า egotist กับ egoist มันแตกต่างกัน น่าสนใจมากๆเรยย

    ReplyDelete
  5. อ่านไปอ่านมาเหมือนกำลังอ่านวิเคราะห์ทฤษฎีสมคบคิดของเอ็มวีเพลงเลยค่ะ 5555555555 อ่านดูก็รู้เลยว่าคนเขียนเขียนด้วยความชอบจริง ๆ ตรง 教えて震える นี่เราตีลังกาอ่านยังไม่เข้าใจเลยค่ะ พอได้อ่านแล้วก็ถึงกับบางอ้อซะที 5555555 ไม่รู้ว่าประธานและกรรมของประโยคคืออะไร นี่เป็นปัญหาในการฟังเพลงยี่ปุ่นมากจิง ๆ ค่ะ

    ReplyDelete
  6. เจ้ยย เราก็ชอบมามามู กี้สสสสส ไม่คิดว่าจะมีคนแปลเพลงมามามูแล้ววิเคราะห์จริงจังขนาดนี้ เจ๋งมากเลย ตอนเราดูเอ็มวีแค่รู้สึกว่า โห เพลงเร้ามาก แถมทุกคนโซเฟียส พี่ล่าก็คือแซ่บมาก ขอร้อง55555 เจอวิชาการอย่างนี้เข้าไปต้องไปสังเกตเอ็มวีดีๆอีกทีแล้วล่ะ

    ReplyDelete

Post a Comment