📔End of "This" Journey

🍀タスク③ "ใจเขาใจเราเนาะ"


สวัสดีค่าา กลับมาเจอกันอีกครั้ง ณ สวนไชเท้าเร้กๆของเรา
หายไปสองอาทิตย์ เราก็ไม่ได้กลับมามือเปล่า แต่กลับมาพร้อมข่าวดีค่ะ!
นั่นก็คือออ
.
.
.
ซีรีส์แสดงความคิดเห็นอย่างไรให้ดูชาญฉลาดของเรานั้นได้จบลงแล้วค่ะ!! //จุดพลุ

เรียกได้ว่ายาวนานมากสำหรับการเรียนเรื่องนี้ แต่ก็คุ้มค่ากับความรู้ที่ได้ค่ะ
โดยเราจะสรุปในภาพรวมได้ประมาณนี้

     1. 内容 
      - มีประเด็นที่ชัดเจน 
      - มีข้อสนับสนุนและตัวอย่างจากแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือ 
      - พิจารณาจากหลายแง่มุม(多面的)
     2. 表現
      - การสื่อสารความหมายที่ถูกต้อง ชัดเจน : 漢語、二語の組み合わせ、コロケーション
      - เลือกใช้คำที่ดูทันสมัย : 外来語
      - การพูดอ้อมๆ หรือให้ดูกำกวม เพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องคาวๆฉาวๆ(生々しさを避ける)
      หรือเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัว(プライバシーを守る)
      - คิดถึงความรู้สึกของผู้อื่น : クッション言葉
      - แสดงความคิดเห็นในแง่บวก : ชี้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นโดยไม่โทษอีกฝ่าย(相手を責めない)
      โฟกัสที่ด้านดี (プラスなところに注目)

   พอได้มานั่งดูว่าเรียนอะไรไปบ้างก็ถึงกับว้าว.. จะพูดให้ชาญฉลาดเนี่ยไม่ใช่แค่เนื้อหาดีเท่านั้น แต่การแสดงออกผ่านการเลือกใช้คำและสำนวนต่างๆก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ

ก่อนที่เราจะจบเรื่องนี้กันอย่างเป็นทางการ
เราก็จะมาพูดถึงประเด็นที่เรามองว่ายากที่สุดกัน
ซึ่งก็คือการแสดงความคิดเห็นในแง่บวกค่ะ

― ― ― ― ― ― ― ― 

   อย่างที่บอกไปข้างต้นว่าการแสดงความคิดเห็นในแง่บวก คือ การชี้ข้อบกพร่องหรือปัญหาที่เกิดขึ้นโดยไม่โทษอีกฝ่าย(相手を責めない)และการโฟกัสที่ด้านดี (プラスなところに注目)

"แต่การที่จะทำแบบนั้นได้อ่ะ มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆไง!!"

   ปัญหาหลักๆเลยคือมนุษย์เรามักจะมองเห็นและจดจำเรื่องแย่ๆได้มากกว่าเรื่องดีๆเนี่ยสิ แถมพอเราคิดว่าสิ่งนั้นไม่ดีไปแล้ว การจะลบภาพจำนั้นแล้วหันมามองอีกด้านมันก็เป็นเรื่องยากมากๆ ดังนั้นการที่เราจะแสดงความคิดเห็นต่อสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเป็นกลางเนี่ย ก็ต้องมาปรับที่มุมมองของเราก่อนเลย

   ขั้นแรกคือเราพึงระลึกไว้เสมอว่าโลกใบนี้มีทั้งขาวและดำ ไม่มีอะไรที่ดีและแย่ไปทั้งหมด อยู่ที่เราเลือกที่จะมองด้านไหน และการที่เราจะแสดงความคิดเห็นในแง่บวกได้ เราก็ต้องมองหาด้านดีๆนั้นให้เจอ

   เพื่อนๆลองย้อนกลับไปเมื่อปี3เทอม1 ในคาบคอนเวอที่เรารัก เราได้เรียนเรื่องการพูดถึงนิสัยของตัวเองและหัวข้อฮัปเปียวในเรื่องนี้ก็คือการพูดข้อดีและข้อเสียของตัวเองใช่มั้ยล่ะคะ
   
   ในการเตรียมตัวฮัปเปียว อาจารย์ให้เราได้ลองเขียนข้อดีและข้อเสียของตัวเอง แต่ๆๆๆ มันไม่ใช่แค่การเขียนว่าข้อดีของตัวเองคือขยันนะ ข้อเสียของตัวเองคือมองโลกในแง่ลบนะ แต่ต้องบอกถึงเหตุการณ์ดีและร้ายที่เกิดขึ้นจากข้อดีข้อเสียนั้นด้วยค่ะ ว้าวซ่าา

   ชัดเจนมากว่าแม้แต่ในนิสัยที่เรามองว่าเป็นข้อดี ก็อาจนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ไม่ค่อยดีได้ เช่น ข้อดีของเราคือการปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้ง่าย ซึ่งในแง่หนึ่งมันก็ทำให้เราปรับตัวเข้ากับความชอบของเพื่อนได้ดี แต่ในอีกแง่หนึ่งมันกลายเป็นว่าเราปรับตัวเข้าหาคนอื่นมากไปจนลืมความเป็นตัวเองค่ะ

   หากจะพูดตามความคิดของเรา เรามองว่า นิสัยของคนเรามันเป็นกลาง เป็นพฤติกรรมหนึ่งที่สามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีและไม่ดี แต่การเลือกใช้คำในการอธิบายนิสัยนั้นต่างหาก ที่ทำให้กลายเป็นข้อดีและข้อเสียไป

   ดังนั้นเมื่อเราสามารถมองเห็นถึงด้านดีในข้อเสียนั้นๆแล้ว ที่เหลือก็คือสื่อสารมันออกมาให้เหมาะสม ซึ่งก็ต้องอาศัยการเลือกใช้คำที่ให้ภาพลักษณ์ที่ดี หรือก็คือ ポジティブな言葉 นั่นเอง

ตัวอย่างการเปลี่ยน ネガティブな言葉 ให้เป็น ポジティブな言葉
   「ずるい」⇒「頭がいい」
   「短絡的」⇒「決断が早い」
   「デブ」⇒「おいしく食事をできる」
   「泣き虫」⇒「感情を素直に表現できる」
   「能天気」⇒「前向き」
   「ばか」⇒「素直」
   「悲観的」⇒「想像力豊か」
   「不公平」⇒「人間らしい」
   「プライドが高い」⇒「誇り高い」
   「利己主義」⇒「合理的」
   「ルーズ」⇒「リラックス」

   พอลองเปลี่ยนคำที่ใช้ แล้วก็ฟังดูอ่อนโยน นุ่มฟูขึ้นมาเลย! แต่การเลือกใช้ ポジティブな言葉 เองเนี่ยก็มีข้อควรระวังเหมือนกันนะคะ นั่นก็คือความแตกต่างของวัฒนธรรม ความคิดค่ะ เพราะว่า ポジティブな言葉 ในภาษาหนึ่ง อาจจะเป็น ネガティブな言葉 ในอีกภาษาก็ได้ค่ะ

   ยกตัวอย่างเช่น การพูดว่า "เธอน่ะน่ารักเหมือนหมาเลยนะ" มันอาจจะเป็นคำชมในภาษาญี่ปุ่น เพราะภาพลักษณ์ของหมาสำหรับคนญี่ปุ่นมันแสนจะน่ารักฟรุ้งฟริ้ง แต่ลองมาพูดแบบนี้กับคนไทยสิ คงได้ตบกันสักยก เพราะภาพลักษณ์ของคำว่าหมาในภาษาไทยมันไม่ได้น่ารักขนาดนั้น ออกจะเป็นคำด่าเสียมากกว่า เจอพูดแบบนี้ใส่ คนไทยก็อาจตีความได้ว่า "หล่อนน่ะไม่สวย เหมียนหมา!"แทน เจ๊งเลยจ้า

   นอกจากการเลือกใช้คำที่มีภาพลักษณ์เชิงบวกแล้ว การเลี่ยงคำที่แสดงอารมณ์ในเชิงลบก็สำคัญเช่นกัน อย่างคำว่า「なんて」เนี่ย เลี่ยงได้เลี่ยงเลยค่ะ เพราะพลังงานหยินเข้มข้นมาก แฝงไปด้วยความบ่น ความตำหนิติเตียน และอีกคำที่ควรระวังก็คือ 「でしょう」ซึ่งถ้าใช้ไม่ดี เราจะกลายเป็นคนอวดรู้ไปทันที

เขียนเองมาจนถึงตอนนี้ก็น้ำตาจะไหล แค่จะพูดสิ่งที่ตัวเองคิดทำไมมันยากขนาดนี้..

   เราเองก็เคยเป็นคนหนึ่งที่คิดว่า ทำไมเราถึงจะติใครสักคนออกมาตรงๆไม่ได้ ในเมื่อการกระทำของเขามันไม่ดี? ทำไมเราถึงต้องพูดดีๆกับคนไม่ดีด้วย? เวลาเราเขียนซะคุบุงก็เลยชอบเขียนอะไรที่ดูเป็นการติ ย้ำถึงความผิดพลาดของคนที่กล่าวถึงบ่อยๆ

   ล่าสุดเราเขียน 学習計画 ไปให้อาจารย์แม่อิเคะทะนิตรวจ ในนั้นเราก็เขียนถึงปัญหาของมหาลัยแหละ ว่าบางเรื่องสอนไม่ละเอียด เนื้อหาไม่กว้าง เลยอยากไปแลกเปลี่ยน และสิ่งที่แม่บอกเราก็คือ 「誰でもマイナス評価を読むのは気持ちのいいものではありません。たとえそれが本当であったとしても。」

   พอได้อ่านคอมเมนต์จากแม่ ในหัวก็คือ "เออ ก็จริง" เพราะลองคิดกลับกันว่า ถ้าเราเป็นผู้ฝัง เราเองก็คงอยากได้ยินสิ่งดีๆเกี่ยวกับตัวเรามากกว่าไม่ใช่เหรอ

   คำพูดมันเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อใจคนมาก ยิ่งสมัยนี้เราเองก็เห็นได้จากข่าวมากมาย ว่าคำพูดที่ไม่ดีมันทำร้ายคนได้ขนาดไหน จะดีกว่ามั้ยถ้าเราเลือกพูดสิ่งดีๆให้แก่กัน หรือถ้าจะตำหนิก็ให้ตำหนิที่การกระทำแทนที่จะเป็นบุคคล

   หลังจากนั้นเราก็เลยพยายามมองด้านดีๆ เลือกใช้คำพูดที่ดูเป็นกลางมากในการพูดหรือเขียนมากขึ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่าความรู้ด้านภาษาอันน้อยนิดของเราเป็นอุปสรรคมากจริงๆ ตอนนี้ก็พยายามเสพสื่อที่เป็นภาษาญี่ปุ่นมากขึ้น และสุดท้ายนี้ ก็หวังว่าทฤษฎี 大量のインプット ของคราเชนจะช่วยเราได้ ข่อมค่ะ 55555

― ― ― ― ― ― ― ― 

เขียนบล็อกแล้วไม่ขายของได้หรอ?
คำตอบคือ "ไม่ได้" 55555


นี่เลยจ้าา เพลงโซโล่พี่บยอลล

เราไม่ได้สุ่มเพลงมาขายเด้อ แต่คอนเซปต์ของวันนี้คือทุกอย่างมีสองด้านใช่มั้ยล่ะ ดังนั้นเพลง Eclipse ที่แสดงให้เห็นทั้งด้านสว่างและด้านมืดของดวงจันทร์เนี่ยมันก็แสนจะตรงคอนเซปต์!!
.
.
.
สีข้างถลอกแล้ว เอาเป็นว่าฟังเถอะ เพลงดี เอมวีดี ยังจะต้องหาเหตุผลอะไรมาสนับสนุนอีก (ความล้มเหลวในการขายของอย่างชาญฉลาด..)

ไปละ บัย!

Comments

  1. บล็อกสวยเหมือนเดิมเลยตะเอง แต่จริง จะพูดอะไรแต่ละครั้งนี่ต้องคิดแล้วคิดอีก แต่แสวว่ามันก็เป็นอะไรที่ดีมากๆเลยนะเวลาที่เราต่างนึกถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย ใจเขาใจเรางี้ โลกจะน่าอยู่ขึ้นมากๆๆ🥺

    ReplyDelete
  2. จีงค่ะเห็นด้วยกับแสว การพูดดีๆ ต่อกันมันทำให้โลกน่าอยู่ขึ้นมากจริงๆ แค่ปรับเปลี่ยนคำพูดนิดหน่อย สิ่งที่ได้รับก็ต่างออกไปแล้ว สุดยอดมากเลยค่ะ

    ReplyDelete
  3. ชอบการเปลี่ยนคำนี้ 「デブ」⇒「おいしく食事をできる」 ดูน่ารักไปเลย เวอร์ชั่นของครูคือ 貫禄がある ของหนูดูน่ารักกว่า เพลงนี้ก็ดี เขาเต้นเก่งจัง

    ReplyDelete
  4. คุณฟาร์มน้องหัวไชเท้าคือเขียนบล็อกดีมาก มันอ่านเข้าใจง่ายมากๆ ทั้งภาษาแล้วการจัดวางเลย์เอาท์ต่างๆ รวมถึงการเปลี่ยนสีตัวอักษรตรงคีย์เวิร์ดต่างๆ ดีมากเลยค่ะ

    ReplyDelete

Post a Comment